INSPIRATION

How to inspire it to yourself

วิธีการสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง

     Many inspirations come together. Usually there is either fear or intense desire. But at the same time. The battle of inspiration is what you tell yourself in that head. "I think I can do it" "I think I can do it" and "I'm doing it!" We are creating three things: developing confidence. Target And in that direction. Okay, it's time to start!

      แรงบันดาลใจมีหลายอย่างมารวมกัน ปกติแล้วจะมีทั้งความกลัวหรือความปรารถนาอย่างแรงกล้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การต่อสู้ของแรงบันดาลใจเป็นเรื่องที่คุณบอกตัวเองในหัวว่า “ฉันคิดว่าฉันทำได้” “ฉันคิดว่าฉันยังทำได้” และ “ฉันกำลังทำมันอยู่!” และจากความคิดพวกนี้ เรากำลังสร้างสามสิ่ง คือ พัฒนาความมั่นใจ มีเป้าหมายอยู่ และดำรงอยู่ในทิศทางนั้น เอาล่ะได้เวลาเริ่มแล้ว!

 

       1. Quit thinking out of fear: We feel guilty for thinking negatively, instead of thinking for confirmation. We are busy with "no" needs something. That's normal. But it will not work if we still "do not" want them. You can not decide what to do because you "do not" want to do something else. That's not the way it should be. Such thinking just puts you on the couch and does nothing. Fear is dangerous for two reasons. 
                1) Fear does not inspire you. Negative goals are not what you will accomplish. Moreover.

                2) Negative targets will absorb energy from you. It's terrible to be on awe. Because that will put you in a confused state. You will never be inspired. There is no other way.

              
        1.เลิกคิดจากความกลัว. พวกเรารู้สึกผิดเวลาคิดในแง่ลบแทนที่เราจะคิดเพื่อยืนยัน เรายุ่งกับการ “ไม่” ต้องการบางอย่าง นั่นเป็นเรื่องธรรมดา แต่จะไม่มีการลงมือทำถ้าเรายัง “ไม่” ต้องการสิ่งเหล่านั้น คุณไม่สามารถตัดสินใจทำบางอย่างเป็นเพราะคุณ “ไม่” อยากทำอีกอย่าง นั่นไม่ใช่วิถีที่ควรจะเป็น การคิดแบบนั้นก็แค่ทำให้คุณอยู่บนโซฟาและไม่ลงมือทำอะไรเลย        
ความกลัวเป็นอันตรายด้วยเหตุผลสองข้อ
               1) ความกลัวจะทำให้คุณไม่มีแรงบันดาลใจ เป้าหมายในแง่ลบไม่ใช่สิ่งที่คุณจะลงมือทำให้สำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้น
               2) เป้าหมายลบจะดูดพลังงานจากคุณ มันแย่นะที่ต้องอยู่บนความหวาดกลัว เพราะนั่นจะทำให้คุณอยู่ในภาวะสับสนงงงวย คุณจะไม่มีวันได้แรงบันดาลใจ ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้เลย       
  

         2. Define your goals and plans that will help you achieve your goals. This is the time for you to think positively. You have to know that you are starting to look positive. Instead of thinking "I do not want to be a nomad. Let's just say, "I want to be financially secure." Great, how do you plan to achieve that?

*First try to see this example, let's you write plan receipts up, you may need to plan story budget, you may need to study, or grow your business you have a step clear to the target but you are confronted with whatever that your goal is to lose weight good at school, or just follow the dream you need to think out that what do you need you planning to do them with the way, if you like what it really you to figure out is not difficult to
        
            2.นิยามเป้าหมายและแผนการของคุณที่ทำให้คุณบรรลุเป้าหมาย. นี่ถึงเวลาที่เราให้คุณคิดในแง่บวก คุณต้องรู้ว่าคุณกำลังเริ่มมองโลกในแง่บวก แทนที่จะคิดว่า “ฉันไม่อยากเป็นคนเร่ร่อน และใช้ชีวิตอยู่อย่างยาจก” ให้คุณคิดว่า “ฉันอยากจะมีความมั่นคงทางการเงิน” ยอดเยี่ยมเลย ทีนี้ คุณจะวางแผนให้บรรลุเป้าหมายอย่างไรล่ะ?

ก่อนอื่น ลองดูตัวอย่างนี้ สมมติคุณเขียนแผนรายรับขึ้นมา คุณอาจต้องวางแผนเรื่องงบประมาณ คุณอาจต้องกลับไปเรียนต่อ หรือขยายธุรกิจของคุณ คุณมีขั้นตอนที่ชัดเจนไปยังเป้าหมาย แต่ไม่ว่าคุณกำลังเผชิญหน้ากับอะไรก็ตาม ไม่ว่าเป้าหมายของคุณคือลดน้ำหนัก เรียนดีที่โรงเรียน หรือแค่ทำตามความฝัน คุณจำเป็นต้องคิดให้ออกว่าคุณต้องการอะไรและคุณวางแผนจะทำสิ่งเหล่านั้นด้วยวิธีไหน ถ้าคุณต้องการสิ่งนั้นจริง คุณจะคิดออกได้ไม่ยาก
    

       3. Find one goal: If you have millions of things waiting in your to-do list. Sometimes it may be risky and you end up pushing them away and thinking "Behind the deal", but if you have only one goal in the list. It's only you can do it And you will focus on that goal. If you have to split the body out to do a lot of things, it's not sensible.

       3. หาเป้าหมายแค่หนึ่งเดียว. ถ้าคุณมีหลายล้านเรื่องรออยู่ในรายการสิ่งที่ต้องทำล่ะก็ บางครั้งมันอาจสุ่มเสี่ยงและคุณก็จะลงเอยที่คุณผลักรายการพวกนั้นออกไปและคิดว่า “ไว้จัดการทีหลังล่ะกัน” แต่ถ้าคุณมีแค่เป้าหมายอย่างเดียวในรายการนั้น มันก็เท่านั้นแหละ คุณสามารถทำได้ และคุณจะพุ่งความสนใจไปที่เป้าหมายนั้น ถ้าคุณต้องแยกร่างออกเพื่อให้ทำหลายสิ่งได้ล่ะก็นั่นไม่สมเหตุสมผล

      4. make fun: elongation up do what you think that will continue at full speed as soon as you undo such thing as if that is, bad habits, you will quit do it, and for this reason, no matter what will you do, such as saving money for the car new or lose weight 7 kilo's you have to do it with a fun more goals that more fun how much do you will do it, very good informational purposes only, and when you do well, it will see the results faster by.

       4. ทำให้สนุก. ยืดตัวขึ้น ทำสิ่งที่คุณคิดว่าจะคอยทำต่อด้วยความเร็วเต็มพิกัด ทันทีที่คุณเลิกทำสิ่งนั้นเหมือนกับว่านั่นคือนิสัยที่ไม่ดี คุณก็จะเลิกทำมัน และด้วยเหตุผลนี้ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรอยู่ เช่น ออมเงินไว้สำหรับรถยนต์คันใหม่หรือลดน้ำหนัก 7 กิโลฯ คุณต้องทำมันด้วยความสนุก ยิ่งเป้าหมายนั้นสนุกมากขึ้นเท่าไหร่ คุณจะยิ่งทำมันได้ดีมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อคุณทำได้ดีขึ้น ก็จะเห็นผลลัพธ์เร็วขึ้นตาม  

          5. Read about successful people. Just read about what you are thinking all the time, how to inspire, but "it happens" to hear the success stories of others. (Especially when they make it sound so easy), it makes your brain think, "Hey! I can do this too! "So stop chasing a friend's Facebook at school and start doing something useful.

          5. อ่านเรื่องคนที่ประสบความสำเร็จ. มองจากภายนอกนี่อาจฟังดูติ้งต๊อง แค่อ่านเกี่ยวกับสิ่งที่คุณคิดอยู่ตลอดเวลาเวลาจะทำให้เกิดแรงบันดาลใจได้ยังไง แต่ “มันเกิดขึ้น” การได้ยินเรื่องราวความสำเร็จของคนอื่น (โดยเฉพาะเวลาที่พวกเขาทำให้มันฟังดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายสุดๆ) จะทำให้สมองคุณคิดว่า “เฮ้! ฉันก็ทำแบบนี้ได้เหมือนกันนะ!” ดังนั้น หยุดไล่ดูเฟสบุ๊คของเพื่อนที่โรงเรียนและเริ่มทำสิ่งที่มีประโยชน์บ้าง

         6. Set the prize. The results do not happen quickly. It takes years to make a new business to make money. It takes months to achieve weight loss goals. And spend most of your life enjoying yourself. That's just the opposite of happiness. To overcome the cruel truths of life, give yourself a reward. Of course, life does not do anything for you. So you may have to do it yourself.
         6.ตั้งรางวัล. ว่ากันตามตรง ผลลัพธ์ไม่ได้เกิดขึ้นรวดเร็วทันใจ มันต้องใช้เวลาเป็นปีที่จะธุรกิจใหม่จะทำเงิน ใช้เวลาเป็นเดือนที่จะบรรลุเป้าหมายการลดน้ำหนัก และใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตที่จะมีความสุขกับตัวคุณเอง นั่นแค่สิ่งที่ตรงข้ามกับความสุขทันตาเห็น เพื่อเอาชนะความจริงอันโหดร้ายของชีวิตลองให้รางวัลกับตัวเอง แน่นอนว่าชีวิตไม่ได้ทำทุกอย่างให้คุณ ดังนั้นคุณอาจจะต้องลงมือทำเอง    

 source: http://th.m.wikihow.com/%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%